คำถามที่ Hamish McLennnan, Global CEO ของ Young & Rubicam (Y&R) เอ่ยถาม Rupert Murdoch ประธานและซีอีโอ Newscorp และ Peter Chernin มือขวาของรูเพิร์ตซึ่งดำรงตำแหน่งซีโอโอ ในงาน Cannes Advertising Festival 2008 ช่วงเสวนาพิเศษที่จัดโดย Y&R ซึ่งปีที่แล้วสร้างความฮือฮาด้วยการเชิญอัล กอร์อดีตรองประธานาธิบดีของสหรัฐอเมริกามาพูดเรื่องโลกร้อนมาแล้ว
และคำถามทั้งหมดนี้ชี้นำไปถึงทิศทางการปรับตัวของ Newscorp เจ้าของสื่อรายใหญ่ของโลก ทั้ง Rupert และ Peter ไม่ทำให้ผู้ฟังผิดหวังเมื่อเขาตอบทุกเรื่องไม่ว่าจะเป็น การเมือง ความเปลี่ยนในธุรกิจสื่อ หรือแม้แต่เรื่องการลงทุนในประเทศอินเดีย
-ทำไม Wall Street Journal จึงเป็นหนังสือที่บอกรับสมาชิกทางอินเทอร์เน็ตเพียงรายเดียวที่ประสบความสำเร็จ
เริ่มที่คำถามแรก Rupert ให้คำนิยามเรียก Wall Street Journal ว่าเป็นแบรนด์ทางการเงินระดับพรีเมี่ยม และ ไม่ใช่แค่สินค้าสำหรับอเมริกันเท่านั้น แต่เขาถือว่าเป็นสินค้าของคนทั่วโลก นั่นทำให้มันมีรายได้ถึง 100 ล้านเหรียญต่อปี ถึงแม้ตอนนี้มันก็กำลังต่อสู้กับความรวดเร็วของอินเทอร์เน็ตกับโทรศัพท์ ซึ่งเขาคิดว่านี่คือโอกาส รูเพริ์ตหวังว่าภายใน 2-3 ปีนี้ สัดส่วนการขายคอนเทนท์ของ WSJ ทางอินเทอร์เน็ตและโทรศัพท์มือถือจะเพิ่มขึ้นจาก 50% เป็น 75% ด้วยซ้ำเขาเพิ่งตกลงใจลงทุนในเครือข่ายโทรศัพท์มือถือ Jamba เพื่อเสริมศักยภาพด้านนี้
- MySpace จะทำอย่างไรกับกับการเติบโตของ Facebook
และจาก Myspace
ที่ Rupert ซื้อมาด้วยเงิน 580 ล้านเหรียญนั้น ถึงแม้สองผู้บริหารจะยอมรับว่ายอดการเติบโตของ Facebook ช่วงปลายปีที่แล้วแรง เหลือเกิน แต่เจ้าของกิจการวัย 77 ก็ยังแสดงความมั่นใจในโปรดักท์ตัวเอง Myspace.com เป็นแพลทฟอร์มที่ทรงพลัง 10% ของคนอเมริกันที่ออนไลน์ต้องเข้าเว็บมายสเปซ และนี่เป็นช่องทางที่ทำให้นักการตลาดได้เห็นว่าควรใช้ Myspace อย่างไร และนั่นก็เป็นการสร้างรายได้ของ Myspace โดย Rupert กล่าว
Newscorp ไม่เคยกลัวสภาพเศรษฐกิจเลย แต่กลับมองว่ามันคือโอกาส โดยเฉพาะอย่างยิ่งสำหรับบริษัทยักษ์ใหญ่อย่างนี้ ปีเตอร์เรียกช่วงเวลานี้ว่า “ยุคแห่งการเริ่มต้นของการทำแต้มในเทคโนโลยีใหม่” เขาเริ่มใส่ลูกเล่นอื่นๆ นอกเหนือจากแบนเนอร์ที่เขามองว่ามันก็แค่โฆษณาที่ดีกว่าโฆษณาผ่านทางสื่อพิมพ์นิดเดียว
เรา พร้อมสำหรับทุกๆ สภาพเศรษฐกิจ เวลาที่เศรษฐกิจอยู่ในช่วงเวลาที่ยากลำบาก นั่นแปลว่าถึงเวลาที่จะเอาส่วนแบ่งการตลาด (Market Share) จากคู่แข่งที่อ่อนแอกว่า โดย Rupert กล่าว
-ทำไมรายการ American Idol จึงมีผู้ติดตามมากมายทั่วโลก
ท้ายสุดเป็นเรื่องของรายการเรียลิตี้ (Reality) ยอดนิยมอันดับหนึ่งของโลก เฮอมิช ขอทราบเคล็ดลับจากPeter ว่าทำไม American Idol ถึงมีคนคลั่งไคล้นักหนา และความสำเร็จของไททานิคหนังที่ทำเงินอันดับหนึ่งตลอดกาลของโลก
การทำ เรียลิตี้ คนต้องมีส่วนร่วมทุกวินาที ดังนั้นการถ่ายทอดสดหรืออย่างน้อยก็ถ่ายทอดออกไปให้เร็วที่สุดเป็นเรื่องที่ จะให้คนดูมีอารมณ์ร่วมกับเหตุการณ์ ส่วนเรื่องของไททานิคต้องอาศัยความเชื่อมั่นพอสมควร เราลงทุนกับเรื่องนี้ไปมาก แต่ผมก็มั่นใจกับมันมากขึ้นเรื่อยๆ ยิ่งได้เห็นก็ยิ่งมั่นใจ ซึ่งนั่นเป็นจุดเริ่มต้นของการทำงานทุกอย่าง
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น